ชไนเดอร์ อิเล็คทริค แนะวิธีการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงพยาบาลแบบง่ายๆ กับ 3 เคล็ดลับด้านเทคโนโลยี

By | September 30, 2017

Doctors examining x-rays in video conference

ในยุคปัจจุบัน ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเพิ่มขึ้น พนักงานมีงานล้นมือมากขึ้น ในขณะที่ต้องทำงานให้มากขึ้น ด้วยงบประมาณที่ลดลง ปัจจัยเหล่านี้เป็นปัญหาของผู้ดูแลสิ่งอำนวยความสะดวกของโรงพยาบาลที่ต้องพบเจอและต้องหาทางออกให้ได้ เพื่อตอบโจทย์ปัญหาเหล่านี้ พร้อมกับต้องเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานและประสิทธิภาพด้านการดำเนินงานภายในโรงพยาบาลให้ดียิ่งขึ้น

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชันสำหรับโรงพยาบาลผ่านแพลตฟอร์ม IoT ชื่อ EcoStruxure for Healthcare และซอฟต์แวร์  EcoStruxure Building Operation ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค (ซึ่งชื่อก่อนหน้านี้คือ StruxureWare Building Operation) ด้วยโซลูชัน Clinical Environment Optimization ใหม่นี้ จะช่วยให้ผู้ดูแลสิ่งอำนวยความสะดวกในโรงพยาบาลสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับการใช้พลังงานได้ดียิ่งขึ้น โดยอาศัยข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานห้องต่างๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยนำมาใช้ได้เต็มศักยภาพ” ไมเคิล ซัลลิแวน ประธานฝ่ายอาคาร ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าวว่า “ด้วยเทคโนโลยีนี้ ปัจจุบันโรงพยาบาลไม่ต้องสิ้นเปลืองพลังงานไปกับระบบปรับอากาศหรือระบบแสงสว่างในห้องที่ว่างเปล่าที่ไม่มีการใช้งานอีกต่อไป”

โซลูชัน Clinical Environment Optimization  จะนำข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานของห้องมาตั้งค่าปรับเงื่อนไขหรือสถานะการใช้ห้องได้โดยอัตโนมัติตามข้อมูลที่ลงไว้ในระบบ ADT ซึ่งเป็นระบบบริหารจัดการผู้ป่วยตั้งแต่แรกรับผู้ป่วย (Admission) จนถึงผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล (Discharge) หรือการส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลอื่น (Transfer)  ระบบออโตเมชันสำหรับอาคารจะจัดการเรื่องการควบคุมแสงสว่าง การควบคุมอุณหภูมิ และระบบอากาศหมุนเวียน โดยข้อมูลนี้จะนำมาใช้โดยอัตโนมัติ อีกทั้งยังสามารถยกเลิกคำสั่งได้ในเวลาที่ต้องการ และลดกระบวนการทำงานที่ซ้ำซ้อน

โซลูชัน Clinical Environment Optimization ทำงานอย่างไร?

โซลูชัน Clinical Environment Optimization ผสานรวมการทำงานร่วมกับระบบเดิมที่ใช้งานอยู่ได้อย่างไม่มีปัญหา ผ่านอินเทอร์เฟส Health Level-7 (HL7) โดย HL7 ก็คือองค์กรที่พัฒนามาตรฐานระบบเปิดที่สนับสนุนความสามารถในการทำงานร่วมกันของระบบงานด้านการดูแลสุขภาพ ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรฐานที่มีการติดตั้งใช้งานอย่างกว้างขวางมากที่สุดในสถานดูแลสุขภาพ  มาตรฐานดังกล่าวคือตัวที่อนุญาตที่ให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางคลินิกและเชื่อมโยงระบบอำนวยความสะดวกและระบบงานในคลินิกเข้าด้วยกัน

โซลูชัน Clinical Environment Optimization ยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ โดยใช้โปรโตคอล BACnet, LONworks หรือ Modbus ซึ่งนิยมใช้สำหรับระบบออโตเมชันสำหรับอาคาร และแอพพลิเคชันเพื่อการควบคุม

เคล็ดลับ 3 ประการ สำหรับการทำ Optimization ได้ง่าย?

  1. ผสานการทำงานของระบบบริหารจัดการอาคาร และระบบ ADT ของโรงพยาบาลเข้าด้วยกัน เพื่อลดการใช้พลังงานในห้องผู้ป่วย รวมถึงห้องผ่าตัด และพื้นที่ในบริเวณคลินิกที่ไม่มีการใช้งาน

 

  1. นำข้อมูลเกี่ยวกับห้องมาใช้ในการแจ้งเตือนฝ่ายดูแลความสะอาด เมื่อห้องว่างและพร้อมที่จะให้เข้ามาทำความสะอาดได้
  2. นำข้อมูลเกี่ยวกับห้องมาใช้ในการแจ้งเตือนพนักงานดูแลสิ่งอำนวยความสะดวก ในช่วงเวลาที่ห้องว่างและพร้อมที่จะให้เข้ามาดำเนินการเรื่องการซ่อมบำรุง

เหมาะสำหรับโรงพยาบาล – ศูนย์ดูแลสุขภาพทุกขนาด

สามารถใช้ร่วมกับสิ่งอำนวยความสะดวกในโรงพยาบาล – ศูนย์ดูแลสุขภาพทุกขนาด โดยเป็นโซลูชันที่ให้ประโยชน์สูงสุดสำหรับสภาพแวดล้อมแบบคลินิก ด้วยความสามารถดังต่อไปนี้

  • มีโพรไฟล์เรื่องการใช้พลังงานที่ยืดหยุ่น สำหรับแผนกหรือพื้นที่ของโรงพยาบาลที่มีความแตกต่าง
  • มียูสเซอร์อินเทอร์เฟสที่ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับสถานภาพการใช้งานของห้องได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงสามารถรีเซ็ตหรือซิงค์ข้อมูลร่วมกันได้
  • มีเครื่องมือช่วยในการตั้งค่าการใช้งานเพื่อช่วยให้ติดตั้งใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
  • ไม่จำเป็นต้องเก็บข้อมูลเฉพาะของผู้ป่วยเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานความเป็นส่วนตัว HIPAA
  • รองรับโหมดการทำงานของห้องได้ 4 ประเภท เพื่อช่วยให้ประหยัดพลังงานได้สูงสุด รวมถึงรองรับการปรับเปลี่ยน (override) คำสั่งได้
    • มีการใช้งาน (Occupied) – ห้องที่มีการใช้งานอยู่
    • ห้องว่าง (Unoccupied) – ห้องว่างชั่วคราว แต่มีกำหนดใช้งาน
    • ห้องพร้อมใช้งาน (Available) – ห้องว่างและพร้อมสำหรับการใช้งาน
    • ทำความสะอาด (Housekeeping) – ห้องว่างและสามารถเข้าไปทำความสะอาดได้
    • สามารถเปลี่ยนคำสั่งห้องที่มีการใช้งาน (Local Override to Occupied) – ช่วยให้เปลี่ยนคำสั่งการตั้งค่าเพื่อควบคุมการใช้ห้อง
  • รองรับการตั้งค่าห้องทั้งห้องนอนเตียงเดี่ยวและห้องนอนเตียงรวม
  • ผสานการทำงานร่วมกับ Apps Studio ได้โดยง่าย (ก่อนหน้านี้รู้จักในชื่อ AdaptiApps สำหรับธุรกิจเพื่อสุขภาพ)
  • รองรับการทำงานร่วมกับระบบบริหารจัดการอาคารของชไนเดอร์ อิเล็คทริค รวมถึงระบบของค่ายอื่น ด้วยการใช้โปรโตคอล BACnet หรือ LONworks

สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชันได้ที่ http://www.schneider-electric.co.th/th/work/campaign/innovation/buildings.jsp เพื่อปฏิรูปประสิทธิภาพด้านพลังงานและการดำเนินงานที่คล่องตัวให้กับโรงพยาบาล เพื่อรองรับจุดเปลี่ยนแห่งยุคดิจิทัล #IoT #EcoStruxure #LifeIsOn

# # #

เกี่ยวกับชไนเดอร์ อิเล็คทริค

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านการบริหารจัดการพลังงาน และระบบออโตเมชัน โดยมีรายได้ประจำปีงบประมาณ 2559 คิดเป็นมูลค่า 25 พันล้านยูโร บริษัทฯ มีพนักงาน 144,000 คน ไว้คอยให้บริการลูกค้าในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก เพื่อช่วยให้ลูกค้าบริหารจัดการพลังงาน และกระบวนการทำงานได้อย่างปลอดภัย มีเสถียรภาพ ประสิทธิภาพ และสร้างความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ นับตั้งแต่สวิตช์ไฟที่เรียบง่ายที่สุด ไปจนถึงระบบการทำงานที่ซับซ้อน ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยังเป็นเจ้าของเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ และการบริการ ที่ช่วยให้ลูกค้ายกระดับประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการ และการดำเนินงานได้แบบอัตโนมัติ เทคโนโลยีที่มีความสามารถในการเชื่อมต่อของเรา จะช่วยปรับโฉมอุตสาหกรรม เปลี่ยนเมือง และช่วยให้ผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สำหรับชไนเดอร์ อิเล็คทริค เราเรียกสิ่งนี้ว่า “Life is On” www.schneider-electric.co.th/th